Monday, June 14, 2010

ทำไมไม่มีสอนใน...โรงเรียน มหาวิทยาลัย

เมื่อวาน @sugree บ่นหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน และสิ่งที่ได้ใช้ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

เท่าที่จำความได้ พวกเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันที่ IT, KMUTT ก็เคยบ่นเรื่องนี้ โดยเฉพาะกับวิชา math, algorithm...
วันนั้นเราเองก็ได้แต่นั่งฟัง เพราะว่าไอ้ที่เค้าพูดบ่นๆกันนั้น มันหน้าตาเป็นยังไง เอาไปทำอะไร ก็ยังไม่รู้เรื่องเลย

เวลาผ่านไป เคยพูดคุยกับรุ่นพี่อีกคนหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์ แกก็บอกว่า บางสิ่งบางอย่างที่ถามกันว่าเรียนไปทำไม ไม่เห็นได้ใช้เลยนั้น เหตุผลก็คือ คุณยังไม่ต้องไปแก้ปัญหาที่ต้องใช้ระดับความรู้เหล่านั้น ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่ามันระดับความรู้ความเข้าใจในเรื่องพวกนี้มันสูงส่ง หรือต่ำต้อย
แต่กำลังบอกว่า ปัญหาที่ต้องให้ใช้ความรู้เหล่านั้นมันมีอยู่ เพียงแต่คุณอาจจะไม่ได้เวียนไปเจอมันง่ายๆเท่านั้นเอง

แล้วก็วนกลับมาที่คำถามเดิมว่า ในเมื่อไม่ได้ใช้บ่อย แล้วจะเรียนไปทำ(แป๊ะ)อะไร
ขอถามกลับว่า ถ้าคุณไม่เรียนความรู้พื้นฐาน คุณจะเข้าใจทฤษฎีที่มันใหญ่ขึ้น ที่มีรากฐานมาจากหลายๆความรู้พื้นฐานรวมกันได้อย่างถ่องแท้หรือไม่

อนึ่ง...ปัญหาที่ว่า การเรียนในห้องเรียนนั้นไม่ครอบคลุมสิ่งที่เกิดในทางปฎิบัติ ตัวเรากลับมองว่า โลกนี้กว้างใหญ่เหลือเกิน การที่จะรวบรวมทุกสิ่งอย่างไว้ในห้องเรียนนั้น อาจเรียกว่าเป็นไปไม่ได้
สิ่งที่เราควรมุ่งเน้นมากกว่าคือ สร้างเสริมประสบการณ์ในการเรียนรู้ โดยอาศัยการเรียนทฤษฎีพื้นฐานแล้วลองต่อยอดความคิดไปสู่สิ่งอื่นๆให้เป็น หรือมองสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า แล้วทำการย้อนกลับเพื่อค้นหาหลักการพื้นฐานของสิ่งเหล่านั้นให้ได้

และนั่นก็คือหัวใจของการเรียนรู้

อย่างไรก็ดี สิ่งที่คุณ @sugree กล่าวไว้ ไม่ได้ผิดแต่อย่างใด หากมีการเรียนการสอนสิ่งที่นักคอมพิวเตอร์ทั้งหลายควรทราบและทำเป็นได้ทันทีหลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยได้ก็คงจะดี
แต่ส่วนตัวก็ยังมองไม่เห็นว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เนื้อหาสาระมันกว้างใหญ่เหลือเกิน...

สิ่งสำคัญที่อยากจะเน้นก็คือ การเรียนในห้องเรียน เราเรียน เพื่อเพิ่มทักษะ "การเรียนรู้" ให้เป็น ตัวบทความรู้กลับกลายเป็นเรื่องรองไป เมื่อเราเข้าใจกลไกการเรียนรู้ แม้ไม่รู้ในเรื่องบางเรื่องมาก่อน แต่เราก็สามารถเรียนรู้ได้เอง

No comments: