ท่ามกลางความเงียบสงัดของสายลม เสียงฝีเท้าหนึ่งค่อยๆดังขึ้น ดังขึ้น
รองเท้าบู๊ตคู่งามเหยียบผ่านพื้นหินใหญ่น้อยที่เปียกชุ่ม เจ้าของเท้าคู่นี้อยู่ในอาการเร่งรีบ
เสื้อโค้ทสีดำแลดูบางเกินไปกับอากาศที่หนาวและชื้นแฉะเช่นนี้ เธอสวมกอดแขนกระชับเข้า
เสียงตึก ตึก ปลุกให้บรรดาสัตว์ตัวเล็กๆในบริเวณมีการเคลื่อนไหว
กระรอกน้อยกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดมาทางด้านข้าง นกที่มักอยู่กันเป้นคู่ส่งเสียงกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกัน
ในช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ ใบไม้ร่วงหล่นจนเกือบหมดแล้ว
ม่านต้นไม้ที่เคยกั้นสวนแห่งนี้ไว้เป็นส่วนๆ ได้ถูกเปิดออก
จากจุดที่หญิงสาวกำลังเดินอยู่ เธอสามารถมองผ่านไปทางฝั่งตะวันตกได้อีกราวครึ่งกิโล เว้นเสียแต่ว่าหมอกจะลงหนาเกินพอดี
อย่างเช่นวันนี้...
เธอเดินอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในสวนสาธารณะ ท่ามกลางอากาศหนาวและหมอกที่ลงจัด ถึงแม้ขณะนี้คือเวลาเกือบแปดนาฬิกาในยามเช้า
ทว่าทุกอย่างรอบตัวกลับโพล้เพล้จนเกือบเรียกได้ว่ามันยังไม่เช้าเลย
เสียงฝีเท้าหยุดลงฉับพลัน หญิงสาวพยายามมองทะลุม่านหมอกที่บัง บางสิ่งบางอย่างอยู่เบื้องหน้า
สัญชาติญาณบอกกับเธอว่ามีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น...
"เฮ้ย ไรวะ แล้วจะไปทางไหนล่ะเนี่ย" หญิงสาวเปรยขึ้น
คนงานข้างหน้าเธอสองสามคนมองมาด้วยท่าทีแปลกใจในภาษาที่เธอใช้
"moien" เธอทักทายพวกเขา
"moien.." "moien" "bonjour" พวกเขาทักทายกลับ
คอมมูนคงให้เจ้าหน้าที่มาทำถนนในสวนแห่งนี้ใหม่
สุดท้ายหญิงสาวที่รีบเดินไปเรียนภาษาฝรั่งเศสเลยต้องเดินอ้อมถนนส่วนที่เจ้าหน้าที่กำลังขุดกันอยู่ ไปบนดินเฉอะแฉะ...
จบ
3 comments:
- -" เล่าซะเป็นห่วงเลยนะ
สรุปว่า หมอกลงหนา เลยเดินไปไม่ถูกเรอะ???
คราวหลังก็เขียนภาษาคนธรรมดาก็ได้ ยังกะอ่าน davinci code
ก็ตอนเดินไปนั่น มันคิดถึงภาษาแบบนิยายจริงๆนะ พวกสืบสวนสอบสวน ฆาตรกรรม ประมาณนั้น... เลยตั้งใจจะเล่าตามที่รู้สึกตอนนั้นอ่ะ
คือวันนั้นน่ะ หมอกลงหนา เดินตามทางที่เคยเดิน
แต่ข้างหน้าด้นมีเจ้าหน้าที่มาขุดถนน มองเห็นอีกที ก็ตอนอยู่ใกล้ๆแล้ว จะไปอีกทางก็ไม่ทันแล้วน่ะ ไม่ได้เดินไปไม่ถูก
ง่ะๆๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง แต่แปลว่าเราเล่าได้สยองใช้ได้ ฮ่าๆๆ
Post a Comment